เพิ่มร่มเงาให้บ้านด้วย แบบระแนงบังแสงสว่าง

เพิ่มร่มเงาให้บ้านด้วย แบบระแนงบังแสงสว่าง การแต่งบ้านด้วยระแนงไม่เพียงแค่ช่วยกรองแสงตะวันก่อนไปสู่ตัวบ้าน แต่ว่ายังสามารถเพิ่มความสวยให้บ้านงามมีสไตล์ได้อย่างไม่เหมือนใคร ถ้าเกิดคุณกำลังมองหาไอเดียสำหรับการจัดตั้งระแนงตกแต่งบ้านให้ดีที่สุดรวมทั้งช่วยกรองแดดก่อนไปสู่พื้นที่ในบ้าน 

ระแนงออกแบบ เปิด-ปิดพื้นที่รอบๆข้างหน้าของบ้านโดยส่วนมากจำเป็นต้องพบเจอกับแสงอาทิตย์แล้วก็ความร้อนเสมอๆ

ซึ่งบางทีอาจมีผลต่อการพำนักข้างในบ้านโดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่พักในห้องนอนส่วนตัวรอบๆข้างบนที่มักเก็บสะสมความร้อนเอาไว้ภายในห้องตั้งแต่ตอนเช้าถึงเย็น

การต่อว่าดตั้งระแนงบังแดดให้กับห้องนอนข้างบนในโซนหน้าบ้าน โดยการวางแบบระแนงเหล็กหรือระแนงไม้แบบเปิด-ปิดได้ตามอยากได้

ก็เลยเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่ช่วยปรับพื้นที่พักในห้องนอนเย็นสบายแล้วก็ลดการสั่งสมความร้อนจากแสงตะวันนอกบ้านได้มากขึ้นกว่าเดิม

 

 

ซุ้มระแนงนั่งพักผ่อน วางแบบพื้นที่นั่งพักผ่อนให้มุมสวนของบ้านหรือสวนดาดฟ้าให้เหมาะกับการนั่งพักผ่อนพักระหว่างวันเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยต่อเติมให้เป็นระแนงหลังคาข้างบนของมุมนั่งพักผ่อน

เพื่อช่วยกรองแดดระหว่างวันให้สามารถเพลินใจไปกับการนั่งพักผ่อนพักได้มากขึ้น หรือบางทีอาจเพิ่มความร่มเย็นเป็นธรรมชาติให้สามารถป้องกันแสงแดดไปอีกขั้น ด้วยการจัดตกแต่งสวนปลูกไม้เลื้อยตามแนวระแนงหลังคาซุ้ม เพียงเท่านี้ก็ช่วยทำให้คุณสามารถพักในสวนระหว่างวันได้อย่างรื่นเริง

ซุ้มระแนงไม้เลื้อย ในรอบๆบ้านที่อยากได้อำพรางสายตาจากด้านนอก และก็บังแสงตะวันระหว่างวันไม่ให้ไปสู่รอบๆบ้านเยอะเกินไป

บางทีอาจตกแต่งด้วยกระบวนการทำระแนงบังแสงสว่างจากไม้เลื้อยธรรมชาติ ซึ่งนอกเหนือจากการที่จะช่วยกรองแดดและก็เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้การพักอาศัยได้อย่างดีเยี่ยมแล้ว ยังสามารถเพิ่มความยุติธรรมชาติให้พื้นที่รอบๆบ้านเต็มไปด้วยความร่มเย็นและก็บรรยากาศที่ชีวิตชีวาที่พอดี

ระแนงไม้ในห้องรับแขก การตำหนิดตั้งระแนงไม้สำหรับกรองแสงอาทิตย์รวมทั้งความร้อนก่อนไปสู่พื้นที่ในบ้านสามารถทำเป็นอีกทั้งการตำหนิดตั้งรอบๆ

ภายนอกและก็ในบ้าน โดยรอบๆที่แสงตะวันมักส่องผ่านได้มากชอบอยู่ในโซนห้องรับแขกของตัวบ้านที่ได้รับการจัดวางไว้ภายในรอบๆด่านแรก ซึ่งนอกเหนือจากการที่จะเลือกใช้แนวทางจัดตั้งผ้าม่านสำหรับร้องไห้แดด ความร้อน รวมทั้งเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้การอาศัยในรอบๆนี้แล้ว

การต่อว่าดตั้งระแนงไม้ซึ่งสามารถเปิด-ปิดได้ตามปรารถนา ก็ถือได้ว่าเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่ช่วยป้องกันตัวบ้านจากความร้อนด้านนอกเจริญ ทั้งยังยังสามารถเพิ่มลูกเล่นด้วยดีไซน์ที่แตกต่างกันรวมทั้งเติมเต็มความอบอุ่นให้มุมบ้านได้มากขึ้นจากการใช้อุปกรณ์ไม้มาดีไซน์เป็นระแนงบังแสงสว่าง

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    คาสิโนดานัง

วิธีการเลือกซื้อของออนไลน์ ไม่ให้โดยโกง

ยุคสมัยนี้เวลาที่เราจะซื้อของแต่ละครั้ง เราเชื่อว่าทุกคนก็มักจะเข้าอินเตอร์เน็ต และก็เข้าเพื่อไปดูรีวิวต่างๆกัน แต่คุณทราบหรือไม่ว่ารีวิวนั้นก็เชื่อได้บ้างไม่ได้บ้าง นอกจากนั้นคุณควรที่จะต้องดูข้อมูลให้ละเอียดอีกด้วย เนื่องจากว่าสมัยนี้มีคนโกงค่อนข้างเยอะ ที่คอยเข้ามาในรูปแบบพ่อค้าหรือว่าแม่ค้า โดยเราจะเห็นได้เยอะในรูปแบบออนไลน์นั่นเอง

 

วันนี้เราจึงมีวิธีแนะนำที่คุณสามารถเลือกได้แบบไม่ถูกโกง หรือเพื่อป้องกันการถูกโกงมาฝากกันคะ อย่างไรก็ตามวิธีการเลือกซื้อสินค้าถือได้ว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับสินค้าออนไลน์เพราะว่ามันจะทำให้คุณได้สินค้าที่ดีมีมาตรฐานและไม่ถูกโกงอย่างง่ายดาย บางอย่างที่เป็นของปลอมอาจจะส่งผลอัตรายถึงแก่ชีวิตของคุณได้เช่นกัน ดังนั้นเรามาดูวิธีที่จะตรวจสอบหรือวิธีดูว่าอันไหนโกงหรือไม่โกงกันเลย โดยมีวิธีไหนสามารถดูได้ดังนี้

 

วิธีการตรวจคุณภาพสินค้าว่าของแท้หรือของปลอม

 1.สามารถตรวจดูได้จากแอพพลิเคชั่น ของ อย.

โดยสามารถนำโค้ดไปตรวจได้เลยว่าเป็นของแท้หรือของปลอม วิธีการตรวจก็ง่ายๆ เราสามารถนำเลขหรือรหัสของ อย.ที่อย.ข้างกล่อง เข้าไปค้นหาได้เลย ไม่ว่าจะเป็นสินค้าชิ้นไหนก็ตาม สามารถที่จะตรวจได้ เพราะสินค้าที่ถูกต้องจะต้องมีเครื่องหมายของ อย. ทุกอย่าง

 

2.สามารถตรวจ อย. จากเว็บไซต์ก็ได้เช่นกัน

สำหรับใครก็ตามที่ไม่สะดวกโหลดแอพพลิเคชั่นมา ก็สามารถเข้าไปตรวจสินค้าจากเว็บไซต์ของ อย. ได้เช่นกัน เพราะสามารถตรวจได้เหมือนกัน และวิธีการก็ยุ่งยาก โดยท่านสามารถเข้าแอพจากนั้นเข้าไปที่โหมด เช็คอย. แล้วก็ใส่เลขอย.ของสินค้านั้นๆ ถ้าหากสินค้าถูกตามหลัก อย.จะขึ้นชื่อและระบุเกี่ยวกับสินค้านั้นๆได้อย่างถูกต้อง

 

3.อ่านคอมเม้นท์ จากสินค้านั้นๆ

การอ่านคอมเม้นท์ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีอย่างหนึ่ง เพราะส่วนใหญ่คนที่ซื้อไปมักจะมาเม้นท์บอกว่าสินค้านั้นดีหรือไม่ดีอย่างไร คอมเม้นท์เหล่านี้ถือได้ว่าเป็นคอมเม้นต์เหล่านี้ถือได้ว่าเป็นการบ่งบอกที่ดีที่สุดถึงแม้ว่าจะมีการตลาดที่เข้ามาเม้นเองด้วยการชมสินค้าของตัวเองก็ตามแต่เราอาจจะเห็นบุคคลอื่นเข้ามาเม้นท์ด้วย และเราจะมั่นใจได้อีกระดับถ้าหากคอมเม้นต์เหล่านั้นจะดี

 

4.การเปรียบเทียบสินค้า

แน่นอนว่าการเปรียบเทียบสินค้าถือได้ว่าเป็นจุดหลักหรือจุดสำคัญอีกอย่างนึง เพราะ  ตรวจสุขภาพ    ว่าผู้ขายอาจจะบอกสินค้าว่าสินค้าตัวเองดีอย่างไรดังนั้นถ้าหากเราเปรียบเทียบกับร้านอื่นเราจะได้สินค้าที่มีคุณภาพดีกว่า ถ้าหากคุณเจอสินค้าเพียงร้านเดียวคุณไม่มีการเปรียบเทียบสินค้าคุณอาจจะได้ของไม่ดีตามมาก็ได้แต่ถ้าหากเปรียบเทียบสินค้าหลายๆร้านแล้ว คุณอาจจะเจอของที่ราคาถูกกว่าและดีกว่าก็ได้เช่นกัน

ถ้าไม่กินไขมันเลย จะเกิดอะไรขึ้นกับร่างกาย

หากคุณตัดสินใจที่จะไม่บริโภคไขมันเลย ผลกระทบต่อร่างกายจะมีหลายด้าน เนื่องจากไขมันมีบทบาทสำคัญในระบบต่างๆ ของร่างกาย แม้ว่าไขมันมักถูกมองว่าเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงเพื่อลดน้ำหนัก แต่ไขมันเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการทำงานของร่างกายอย่างสมบูรณ์ การขาดไขมันในอาหารอาจทำให้เกิดปัญหาทางสุขภาพได้มากมาย

  1. การขาดวิตามินที่ละลายในไขมัน

วิตามินบางชนิด เช่น วิตามิน A, D, E, และ K เป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน และต้องการไขมันเพื่อการดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย หากร่างกายไม่ได้รับไขมันเพียงพอ การดูดซึมของวิตามินเหล่านี้จะลดลง ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะขาดวิตามิน เช่น วิตามิน A ที่จำเป็นต่อการมองเห็น วิตามิน D ที่จำเป็นต่อการดูดซึมแคลเซียมและสุขภาพกระดูก วิตามิน E ที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ และวิตามิน K ที่เกี่ยวข้องกับการแข็งตัวของเลือด การขาดวิตามินเหล่านี้อาจส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงได้

  1. พลังงานที่ลดลง

ไขมันเป็นแหล่งพลังงานที่มีประสิทธิภาพสูง โดยให้พลังงานมากกว่าโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตต่อกรัม การขาดไขมันในอาหารอาจทำให้ร่างกายขาดแคลนพลังงาน ส่งผลให้รู้สึกเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย และขาดความสามารถในการทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน

  1. การควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย

ไขมันใต้ผิวหนังมีบทบาทสำคัญในการรักษาอุณหภูมิของร่างกาย หากร่างกายไม่มีไขมันเพียงพอ อาจทำให้ไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิของร่างกายได้ดีพอ ทำให้เกิดความรู้สึกหนาวง่าย หรือไม่สามารถทนทานต่อสภาพอากาศเย็นได้

https://encrypted-tbn0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcReMOuB20uxgvyaFtAQ902IrMAdU0PT6qXO3nkyngpIPVK4S87ItbfhEnpw5LAAbkN3SMI&usqp=CAU

  1. ปัญหาผิวหนังและเส้นผม

ไขมันเป็นส่วนประกอบสำคัญของเยื่อหุ้มเซลล์ในร่างกาย และยังเป็นส่วนสำคัญของเซลล์ผิวหนังและเส้นผม การขาดไขมันอาจทำให้ผิวหนังแห้ง เส้นผมไม่มีน้ำหนักและขาดการเงางาม นอกจากนี้ยังอาจทำให้เกิดปัญหาผิวหนังอื่นๆ เช่น ผิวลอก ผิวแตก หรือการระคายเคือง

  1. การผลิตฮอร์โมนที่ลดลง  

ไขมันเป็นวัตถุดิบสำคัญในการสร้างฮอร์โมนต่างๆ โดยเฉพาะฮอร์โมนเพศ เช่น เอสโตรเจนและเทสโทสเตอโรน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาลักษณะทางเพศและการทำงานของระบบสืบพันธุ์ การขาดไขมันในอาหารอาจทำให้ฮอร์โมนเหล่านี้ผลิตได้ไม่เพียงพอ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อระบบสืบพันธุ์ สุขภาพทางเพศ และอารมณ์

  1. การทำงานของสมองและระบบประสาท

สมองและระบบประสาทมีส่วนประกอบที่เป็นไขมันมากกว่า 60% ของเนื้อเยื่อสมอง โดยเฉพาะสารไมอีลินที่หุ้มเส้นประสาทเพื่อช่วยส่งสัญญาณประสาทได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ การขาดไขมันในระยะยาวอาจส่งผลต่อการทำงานของสมอง เช่น ความจำ การเรียนรู้ และอารมณ์ นอกจากนี้ยังอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะซึมเศร้า และความผิดปกติทางอารมณ์อื่นๆ

ดังนั้น  สุขภาพหู  การบริโภคไขมันในปริมาณที่เหมาะสมและสมดุลจึงเป็นสิ่งสำคัญต่อสุขภาพที่ดี การงดไขมันทั้งหมดไม่ใช่แนวทางที่แนะนำในการดูแลสุขภาพ และอาจนำไปสู่ผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ต่อร่างกายในระยะยาว

ประโยชน์ของการกินอาหารเย็นก่อนหกโมงเย็น

คุณรู้หรือไม่ว่าช่วงเวลาที่เรากินอาหารนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่จะทำให้เกิดผลดีหรือผลเสียกับร่างกายของเราได้เนื่องจากว่าหากเรากินข้าวที่ไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสมนั้น

ก็จะทำให้อาหารที่เรากินเข้าไปนั้นไม่ได้รับการเผาผลาญได้ดีเนื่องจากว่าระบบการทำงานในร่างกายนั้นจะมีช่วงเวลาว่าช่วงไหนจะมีการดึงสารอาหารไหนไปใช้ในร่างกายบ้าง

ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาพูดถึงประโยชน์ของการกินอาหารซึ่งเป็นอาหารมื้อเย็นโดยควรจะต้องกินก่อนช่วง 6 โมงเย็นแล้ว

เราจะได้รับผลประโยชน์จากการกินอาหารในช่วงเวลานี้อย่างมากมายมหาศาลเลยทีเดียวซึ่งอย่างแรกเลยได้มีการศึกษาแล้วว่าช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการกินอาหารช่วงเวลาเย็นนั้นก็คือช่วงเวลา 6 โมงเย็นถึง 19:00 น แต่ถ้าหากเป็นรายได้นั้นแนะนำว่าควรจะกินก่อน 6 โมงเย็น

จะเป็นการดีที่สุดและการกินอาหารในช่วงเวลาเย็นนั้นไม่ควรเน้นแป้งมากจนเกินไปควรเน้นการกินผักและโปรตีนซึ่งจะช่วยให้คนที่กินนั้นรู้สึกสบายท้อง

ที่สำคัญยังช่วยให้ร่างกายนั้นไม่มีไขมันไปสะสมมากจนเกินไป  ช่วยให้การย่อยอาหารนั้นเป็นไปได้ง่ายเพราะหลังจากที่กินแล้วเรายังมีเวลาที่จะไปเดินย่อยอาหารไม่ต้องรีบนอนมีเวลาที่ร่างกายนั้นจะนำอาหารที่เรากินเข้าไปนั้นไปทำการเผาผลาญ

ซึ่งแน่นอนว่ามันจะมีผลทำให้น้ำหนักของเราไม่เพิ่มหรือคนที่ต้องการลดน้ำหนักนั้นก็จะนิยมกินอาหารเย็นก่อน 6 โมงเย็นกันซึ่งมันจะช่วยให้คนนั้นเอวบางขึ้นได้อย่างแน่นอน

นอกจากนี้เมื่อเรารับประทานอาหารเย็นในช่วงเวลา 6 โมงเย็นแล้วกว่าเราจะกินอาหารมื้อต่อไปนั้นก็คือต้องเป็นมื้อเช้าซึ่งโดยปกติมื้อเช้าแล้วคนส่วนใหญ่ก็มักจะกินอาหารในช่วงเวลา 6 โมงครึ่งถึง 7:00 น ดังนั้นในช่วงเวลาเย็นไปจนถึงเช้านั้นเราก็ได้อดอาหารเป็นระยะเวลาหลายชั่วโมงทำให้ร่างกายนั้นสามารถดูดซึมอาหารที่กินไปในช่วงเย็นมาใช้งานได้ในช่วงที่เรานอนหลับ  

นอกจากนี้การกินอาหารในช่วงเวลา 18:00 น นั้นยังทำให้เรามีเวลาที่จะทำให้กระเพาะอาหารของเรานั้นสามารถย่อยอาหารได้ลดโอกาสที่จะทำให้เกิดอาการท้องอืดท้องเฟ้อในช่วงของการกินอาหารเย็นไปได้เยอะและที่สำคัญเมื่ออาหารย่อยแล้วก็จะทำให้เรานอนหลับสบายมีสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตใจที่ดี 

อย่างไรก็ตามถ้าหากใครที่ไม่ชอบการกินอาหารในช่วงประมาณ 6 โมงเย็นถึง 1 ทุ่มแต่เริ่มที่จะไปกินอาหารมื้อดึกนั้นสังเกตได้ว่าคุณจะรู้สึกอึดอัดหลังจากที่กินอาหารแล้วและที่สำคัญจะทำให้คุณนอนกระสับกระส่ายนอนไม่หลับและเกิดภาวะความเครียดรวมถึงปวดหัวขึ้นมาได้

นอกจากนี้ยังส่งผลต่อภาวะการตื่นตัวของการเต้นของหัวใจสูงอีกด้วยดังนั้นจะเห็นได้ว่าการกินอาหารเย็นก่อน 18:00 น นั้นมีประโยชน์มากและการกินอาหารดึกมากจนเกินไปนั้นก็มีผลเสียต่อร่างกายมากเช่นเดียวกัน 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย    คาสิโนเวียดนาม

โรคเอดส์ (AIDS) หรือโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส HIV (Human Immunodeficiency Virus)

 

โรคเอดส์ (AIDS) เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส HIV (Human Immunodeficiency Virus) ซึ่งส่งผลให้ร่างกายของบุคคลที่ติดเชื้อมีระบบภูมิคุ้มกันลดลงเรื่อย ๆ จนถึงขั้นเป็นโรคเอดส์เอง อาการของโรคเอดส์สามารถแบ่งออกเป็นสามช่วงหลัก ๆ ได้ดังนี้

1.ช่วงช่องโหว่ (Acute HIV infection): ช่วงนี้มักเกิดขึ้นในระยะเริ่มต้นหลังจากติดเชื้อไวรัส HIV ใหม่ เป็นช่วงที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเริ่มต้านไวรัส HIV อาการที่พบมักเป็นไข้ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดคอ ปวดข้อ ความอ่อนเพลีย ผื่นบนผิวหนัง และอาการอื่น ๆ ซึ่งอาจจะมองข้ามไปได้ เนื่องจากอาการเหล่านี้อาจเป็นเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัสอื่น ๆ ที่ไม่ใช่เชื้อ HIV

2.ช่วงปรับตัว (Asymptomatic HIV infection): หลังจากช่วงช่องโหว่ผ่านไประยะเวลาประมาณ 2 ถึง 15 ปี บางคนอาจไม่มีอาการที่น่าสังเกตเป็นอย่างชัดเจน (asymptomatic) แต่ระบบภูมิคุ้มกันของตนอาจเริ่มลดลงเรื่อย ๆ ซึ่งอาจทำให้มีอาการเช่น มีไข้เล็กน้อย หมองเมื่อยง่าย หรือมีปัญหาของระบบภูมิคุ้มกันอื่น ๆ

3.ช่วงโรคเอดส์ (Symptomatic HIV infection/AIDS): หลังจากช่วงปรับตัวผ่านไประยะเวลา 10 ถึง 15 ปีหรืออาจจะเร็วกว่านั้น ผู้ป่วยโรคเอดส์จะมีอาการที่มักมีความรุนแรงมากขึ้น เช่น ปวดท้อง น้ำหนักลดลงอย่างรุนแรง ปวดที่กล้ามเนื้อหรือข้อ มีโรคต่าง ๆ อาทิ เบาหวาน วัณโรค และมะเร็ง เดลย์โรคเอดส์จะมีสาเหตุจากการติดเชื้อจากเชื้ออื่น ๆ ซึ่งร่างกายปกติจะสามารถต้านเชื้อเหล่านี้ได้ แต่ในผู้ที่ติดเชื้อไวรัส HIV ร่างกายจะมีความยากที่จะต้านการติดเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อาการของโรคเอดส์จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล โดยมีความหลากหลายทั้งในอาการและความรุนแรงของโรค และสำหรับบางคนอาจไม่มีอาการเลยในระยะแรก จึงสำคัญที่จะได้รับการตรวจวินิจฉัยและรักษาโรคที่รวดเร็วเมื่อสงสัยว่าอาจมีการติดเชื้อ HIV ในระบบของตน

การป้องกันโรคเอดส์มีหลายวิธีที่สามารถปฏิบัติได้เช่นเดียวกับการป้องกันการติดเชื้ออื่น ๆ และนี่คือบางวิธีที่สำคัญ

1.การใช้ถุงยางอนามัย (condoms): การใช้ถุงยางอนามัยเมื่อมีกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ HIV และโรคติดต่อทางเพศอื่น ๆ ช่วยลดความเสี่ยงอย่างมาก

2.การใช้เข็มที่ปลอดภัย: ในกรณีที่ต้องใช้สารเสพติดหรือฉีดยา ควรใช้เข็มที่ไม่ได้ใช้ซ้ำและปลอดภัย

3.การตรวจสอบสถานะเชื้อโรค: การทำการตรวจเชื้อเอดส์เป็นประจำ โดยเฉพาะหลังจากมีกิจกรรมที่เสี่ยง เพื่อทราบสถานะของตนเองและรับการรักษาตามคำแนะนำเพื่อลดความเสี่ยง

4.การให้ยารักษากำเนิด: สำหรับผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูง เช่น คู่รักระดับสูงที่มีหนึ่งในฝ่ายติดเชื้อ หรือแม่ติดเชื้อที่ตั้งครรภ์ การให้ยากำเนิด (Pre-exposure prophylaxis: PrEP) สามารถลดความเสี่ยงได้

5.การให้ยารักษาหลังเผ่าพันธุ์ (Post-exposure prophylaxis: PEP): ในกรณีที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ HIV ในระยะเวลาที่สั้น ๆ (เช่น หลังถูกทำร้ายทางเพศ) การให้ยา PEP ในช่วงเวลาหลังเหตุการณ์นั้นสามารถลดความเสี่ยงได้

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย  คาสิโน ญาจาง

อาการร้อนใน เกิดจากสาเหตุอะไร

“อาการร้อนใน” หรือ “ไข้” เป็นสภาวะที่ร่างกายเพิ่งสร้างขึ้นเพื่อต่อสู้กับสิ่งที่เข้ามาทำร้าย ส่วนใหญ่เกิดจากการต่อสู้กับเชื้อโรค อาจเป็นไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ หรือโรคอื่นๆ ที่เข้ามาทำลายเซลล์ในร่างกาย

เมื่อร่างกายรู้สึกตัวมีสิ่งที่ต้องสู้ปรากฏขึ้น ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายจะทำงานในการต่อสู้ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการไข้ขึ้นมา เพื่อใช้สร้างสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมสำหรับเชื้อโรคและช่วยให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับเชื้อโรคได้ดีขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีสาเหตุอื่นๆ ที่สามารถทำให้เกิดอาการร้อนในได้ เช่น การติดเชื้อและการติดเชื้อที่เกี่ยวข้องกับอวัยวะ เช่น การติดเชื้อทางเดินหายใจ ติดเชื้อทางการเมือง การติดเชื้อในกระแสเลือด เป็นต้น

 อย่างไรก็ตาม การร้อนในหรือไข้เป็นสัญญาณที่มีความสำคัญต่อการป้องกันและรักษาโรค หากมีอาการร้อนใน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม

 

การแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับอาการร้อนในหรือไข้มีหลายขั้นตอนตามความรุนแรงของสถานการณ์ ดังนี้

1.พักผ่อนและดื่มน้ำเพียงพอ: ให้ร่างกายมีเวลาพักผ่อนเพียงพอ และรับประทานน้ำเพียงพอเพื่อประสิทธิภาพในการส่งออกสารพิษและสารต่างๆที่เกิดจากการต่อสู้กับเชื้อโรค

2.รับประทานยาลดไข้: หากไข้สูงหรือมีอาการไม่สบาย คุณอาจต้องรับประทานยาลดไข้ เช่น อะเซตามิโฟเอ็น (acetaminophen) หรืออีบู๊รูเฟ็น (ibuprofen) โดยแนะนำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำจากแพทย์หรือผู้ให้บริการด้านการแพทย์

3.ปรึกษาแพทย์: หากอาการร้อนในไม่ดีขึ้นหรือมีอาการรุนแรง ควรพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและรักษาเพิ่มเติม แพทย์อาจต้องการตรวจสุขภาพเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุของอาการ

4.รับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์: รับประทานอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วน เช่น ผลไม้ และผัก เพื่อช่วยเสริมสร้างร่างกายให้สามารถต่อสู้กับเชื้อโรคได้ดีขึ้น

5.การดูแลตัวเอง: รักษาความสะอาดของร่างกายและสิ่งแวดล้อมรอบข้าง เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ

6.การรักษาโรค: หากการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับไข้เกิดจากการติดเชื้อ จะต้องใช้การรักษาที่เหมาะสมตามสาเหตุของโรคนั้นๆ อาจเป็นการใช้ยาปฏิชีวนะ หรือยาแก้โรคที่แพทย์รับรอง

สาเหตุที่ก่อให้เกิดอาการร้อนใน ได้แก่

อาการร้อนในหรือไข้สามารถเกิดขึ้นจากสาเหตุหลายประการ โดยสาเหตุที่อาจทำให้เกิดอาการร้อนในได้แก่

1.การติดเชื้อ: เช่น ไข้หวัด, ไข้หวัดใหญ่, ไข้เลือดออก เป็นต้น

2.การติดเชื้อทางเดินหายใจ: เช่น โรคไข้หวัดใหญ่, โรคไข้เลือดออก เป็นต้น

3.การติดเชื้อทางเดินอาหาร: เช่น โรคเฉี่ยวพลัน, โรคท้องเดิน และโรคอื่นๆ

4.การติดเชื้อในกระแสเลือด: เช่น ไข้เลือดออก เป็นต้น

5.การติดเชื้อทางการเมือง: เช่น การติดเชื้อทางกรดเอสไตรก์, การติดเชื้อในกระแสเลือด เป็นต้น

6.โรคระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย: เช่น ไข้เรื้อรัง เป็นต้น

7.การแพ้ต่ออาหารหรือสาร: บางครั้งการตอบสนองของร่างกายต่ออาหารหรือสารสามารถทำให้เกิดไข้ได้

8.สารพิษหรือสิ่งก่อภูมิแพ้: การสัมผัสกับสารพิษหรือสิ่งก่อภูมิแพ้อาจทำให้เกิดอาการไข้

9.อุบัติเหตุหรือการบาดเจ็บ: บาดเจ็บหรืออุบัติเหตุที่เกิดขึ้นอาจทำให้เกิดอาการไข้

10.โรคระบบระบาย: เช่น โรคมะเร็ง สามารถทำให้เกิดอาการไข้ได้

 นอกจากนี้ยังมีสาเหตุอื่นๆ ที่อาจทำให้เกิดอาการร้อนในได้ การระบุสาเหตุของอาการร้อนในนั้นจำเป็นต้องพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้องและการรักษาที่เหมาะสม

 

สนับสนุนโดย    ทัวร์คาสิโนเวียดนาม

เทคนิคแนวทางไล่หนู ที่ไม่จำเป็นต้องฆ่าให้ตาย

เทคนิคแนวทางไล่หนู ที่ผู้หญิงขี้ใจอ่อนก็ทำเป็น ในบ้านของพวกเรานั้น บางทีอาจจะพบว่ามีสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ อาศัยอยู่ด้วย อย่างเช่น หนู ถือเป็นตัวร้ายที่กำจัดยากกัดกินของในบ้าน

เทคนิคแนวทางไล่หนู หลายบ้านประสบเจอกับปัญหาเกี่ยวกับหนูในบ้านที่คือปัญหาเรื้อรังมานาน ต้องการกำจัดซะให้หมดสิ้นสักครั้ง

แม้กระนั้นการฆ่าหนูตาดำดำมันก็ดันคือเรื่องอะไรที่อำมหิตมากมายสำหรับผู้หญิงแม่บ้านขี้ใจอ่อน วันนี้พวกเราเลยเอากลเม็ดแนวทางไล่หนูโดยไม่ต้องฆ่าให้ตายมาฝากสหาย ๆ กัน จะมีแนวทางไหนบ้าง ไปดูกันเลย

– น้ำมันก๊าด เพราะว่าน้ำมันก๊าดนั้นมีกลิ่นแรงที่ร้ายแรง ขนาดคนอย่างพวกเราสูดกลิ่นมากมาย ๆ ยังกำเนิดอาการหน้ามืดเลย ด้วยเหตุนั้นการันตีว่าเจ้าหนูตัวเล็ก ๆ จำเป็นจะต้องเข็ดกระทั่งไม่กล้ากลับเข้ามาในบ้านของพวกเราอีกแน่ ๆ แม้กระนั้นเนื่องมาจากเป็นสารเคมีที่ไวไฟก็เลยต้องระวังอย่างใหญ่โตสำหรับในการใช้กันด้วย

– ลูกเหม็น บางทีก็อาจจะมิได้มีกลิ่นแรงร้ายแรงพอ ๆ กับน้ำมันก๊าด แม้กระนั้นถ้าหากนำไปวางไว้ภายในจุดที่รู้สึกว่าเจ้าหนูเหล่านี้จะวนเวียนมาบ่อย ๆดังเช่นว่า ถังใส่ขยะ ฝ้าเพดาน หรือแม้กระทั้งมุมอับในห้องครัว ก็จะช่วยไล่หนูให้ไม่ได้อยากเข้ามาใกล้บ้านพวกเราอีก แถมยังไม่อันตรายเท่าน้ำมันก๊าดด้วย

– แสงไฟ สัตว์นี้เป็นพวกที่เกลียดชังความสว่าง ด้วยเหตุนั้น หากคุณเปิดไฟแน่นอนว่ามันจะช่วยทำให้หนูกำเนิดความหวาดกลัว ไม่กล้าออกมาคุ้ยเศษอาหารอีก แต่ว่าต้องระมัดระวังเรื่องค่าไฟฟ้าที่จะตามมาด้วย

– พลุ นอกเหนือจากแสงไฟที่หนูรังเกียจแล้ว เสียงดังก็ยังส่งผลให้มันรังเกียจด้วย เพราะว่าหนูเป็นสัตว์ที่ขี้ตกใจพอเหมาะ ถ้าต้องการไล่ให้หนูเผ่นกระเจอะกระเจิงล่ะก็ ทดลองซื้อดอกไม้ไฟมาจุดไล่ แต่ว่าต้องระมัดระวังเสียงไปก่อกวนข้างบ้านด้วยนะ อาจมีการแจ้งเพื่อนบ้านสักหน่อยว่าพวกเราจะทำจุดพลุเผื่อไล่หนูนะ

– แมว บ้านไหนที่เลี้ยงแมวมักจะไม่ค่อยมีหนู เพราะพวกมันไม่ถูกกัน ด้วยเหตุนั้นหาแมวมาเลี้ยงสักตัวก็จะช่วยไล่หนูให้พวกเราได้โดยที่พวกเราไม่ต้องทำอะไรเลย

– เม็ดไล่หนู เป็นอีกแนวทางที่ง่ายแสนง่าย หาซื้อเม็ดไล่หนูจากร้านขายของทั่ว ๆ ไป จะมีลักษณะเป็นเม็ด ๆ สีดำ กลิ่นแรง วางไว้ตามจุดที่เจ้าหนูวนเวียนเสมอ ๆ จะก่อให้เจ้าหนูทนกลิ่นแรงไม่ไหวและก็หนีหายไปเอง

– สมุนไพรไล่หนู จะมาในลักษณะของสินค้าน้ำยาไล่หนูที่หาซื้อได้ตามร้านค้าสบายซื้อ โดยน้ำยาตัวนี้จะสกัดมากมายจากสมุนไพรไทยที่มีกลิ่นแรงเช่น ใบกะเพรา สะระแหน่ หรือใบมะกรูด ฯลฯ ซึ่งปลอดภัยต้อผู้ใช้ด้วย

– ปลูกต้นยี่โถ เพราะมีกลิ่นแรงที่เจ้าหนูก็เกลียดแบบเดียวกัน หาปลูกติดบ้านไว้ใช้ไล่หนูได้ โดยวิธีการเด็ดใบไปวางตามจุดที่หนูมาชุมนุมกัน ยืนยันว่าฉุนจนถึงจำต้องหนีไปอยู่ที่อื่น ๆ กันอย่างยิ่งจริง ๆ

 

ได้รับการสนับสนุนโดย    เครื่องช่วยฟังแบบไหนดี

ประโยชน์ของน้ำยาล้างจาน

 คุณรู้หรือไม่ว่าน้ำยาล้างจานสามารถที่จะทำประโยชน์ได้มากกว่าแค่น้ำมาล้างจาน โดยมีคนนำมาใช้ซึ่งพวกเขาบอกว่ามันปลอดภัยไม่ต้องกังวลแต่อย่างใดเลย น้ำยาล้างจานสามารถนำมาดัดแปลงให้ใช้อะไรได้มากมาย

ซึ่งไอเดียนี้เหล่าแม่บ้านส่วนใหญ่ทราบกันดี ถ้าหากเรานำไปใช้อย่างถูกวิธี ท่านสามารถที่จะใช้ได้หลากหลายแบบเลย เรามาดูกันดีกว่าว่าน้ำยาหลังจากนั้นสามารถนำไปใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง

 

1.สามารถขจัดสิ่งสกปรกหรือคราบมันต่างๆที่อยู่บนเฟอร์นิเจอร์ของเราได้

เรารู้กันดีอยู่แล้วว่าคุณสมบัติของน้ำยาล้างจานนั้นมีเพื่อที่จะทำความสะอาดหรือขจัดคาบมันต่างๆนั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่เราจะต้องสงสัยกันเลยว่าการที่เราจะหยิบน้ำยาล้างจานนั้นมาใช้ ทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ของเราได้อย่างสะอาดหมดจด

 

ทั้งน้ำยาล้างจานนี้อย่างปลอดภัยเพราะไม่มีส่วนผสมที่เป็นอันตรายใดๆแก่สิ่งแวดล้อม ดังนั้นมันจึงสามารถขจัดคาบสกปรกที่อยู่บนเฟอร์นิเจอร์ได้อย่างไรที่ติ

 วิธีทำความสะอาด

เพียงแค่คุณนำน้ำยาล้างจานมาผสมเข้ากับน้ำอุ่นเพียงเล็กน้อยเท่านั้นนอกจากนั้นแล้วยังใช้ผ้าที่สะอาดทำความสะอาดชุบน้ำและนำไปเช็คกับสิ่งที่สกปรกบนเฟอร์นิเจอร์ของคุณเพียงเท่านี้ค่าฝุ่นหรือคราบมันต่างๆ ก็หลุดออกสะอาดทันที 

2.ช่วยขจัดคราบสิ่งสกปรกบนเครื่องประดับของคุณให้เครื่องประดับกลับมาใส

หลายคนรู้และหลายคนก็ยังไม่รู้เกี่ยวกับน้ำยาล้างจานที่สามารถนำไปทำความสะอาดให้กับเครื่องประดับของคุณได้โดยมันจะไม่ส่งผลกระทบกับเครื่องประดับของคุณอย่างแน่นอนและนอกจากนั้นยังไม่ทำให้ระคายเคืองกับผิวหนังของคุณอีกด้วยเรียกได้ว่าคืนความปิ๊งประกายให้กับเครื่องประดับของคุณให้กลับมาเหมือนใหม่

  วิธีทำความสะอาด

สำหรับวิธีทำความสะอาดกับเครื่องประดับที่สวยหรูของคุณนั้นโดยคุณต้องนำน้ำยาล้างจานในอัตราแค่หนึ่งส่วนเท่านั้นมาผสมกับน้ำและจากนั้นใช้เครื่องประดับของคุณแช่ลงไป หรือแกว่งไปมาเพียงเท่านี้ก็เสร็จสรรพนำมาเช็ดให้แห้ง แล้วคุณจะได้เครื่องประดับใหม่อีกครั้ง

 3.ทำความสะอาดพรมได้

สำหรับผมที่ปูไว้กับพื้น มักจะมีคราบสกปรกติดอยู่ฝังแน่นดังนั้นการทำความสะอาดพรมให้กลับมาใหม่อีกครั้งไม่ใช่วิถียากอีกต่อไปและนอกจากนั้นการใช้น้ำยาล้างจานในการทำความสะอาดพรมไม่ก่อให้เกิด สารระคายเคืองใดๆ ต่อคนและสัตว์เลี้ยงของคุณอย่างแน่นอน

 วิธีทำความสะอาด

ใส่น้ำยาล้างจานของคุณผสมเข้ากับน้ำอุ่นจากนั้นใช้พรมของคุณที่ต้องการซัก แช่ในน้ำไว้สักครู่จากนั้นนำมาขยี้หรือถ้าเป็นพรมพี่ไม่สามารถโดนน้ำได้ให้นำน้ำยาผสมน้ำอุ่นใส่กระบอกฉีดและนำไปฉีดตรงบริเวณที่เปื้อนจากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดทำความสะอาดอีกครั้งเพียงเท่านี้พรมของคุณก็จะกลับมาสะอาดเหมือนเดิม

 

สนับสนุนโดย    โรงแรม Hoiana Casino

แนะนำ 3 แนวทางการใช้ชีวิตให้ดีต่อสุขภาพ

รู้หรือไม่ว่า ในสมัยปัจจุบันนี้ การมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น ควบคู่ไปกับการมีสุขภาพร่างกายที่และแข็งแรง เป็นสิ่งที่หลายคนต้องการกันเป็นอย่างมาก

รวมไปจนถึงการใช้ชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพ ก็เป็นอีกหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่หลายคนมีความต้องการ

ซึ่งการที่เราจะมีสุขภาพร่างกายที่ดี และแข็งแรง มีสุขภาพจิตใจที่ดีนั้น ปัจจุบันนี้ก็สามารถทำได้หลากหลายวิธมาก ๆ ขอบอกเลยว่าหากเราให้ความสำคัญในการดูแลสุขภาพเป็นอย่างดี

ก็อาจจะทำให้เรามีความสุข และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้นั่นเอง อย่างไรก็ตาม เนื่องจากในสมัยนี้ โรคภัยไข้เจ็บ เป็นสิ่งที่อาจเกิดได้ทุกเมื่อและตลอดเวลา

 

หากใครที่มีความกังวลเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพร่างกาย หรือหากใครที่ต้องการหันมาดูแลสุขภาพร่างกาย และอยากมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น ก็ไม่ต้องเป็นกังวลไป เพราะวันนี้เราจะมาแนะนำแนวทางการใช้ชีวิตง่าย ๆ ที่นอกจากจะทำให้เรามีชีวิตที่ดีแล้วยังมีสุขภาพร่างกายที่ดีไปด้วย ยิ่งเราอายุเริ่มมากขึ้น ยิ่งต้องให้ความสำคัญกับสุขภาพร่างกาย จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย 

การให้ความสำคัญกับสิ่งรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นทั้งในส่วนของความสัมพันธ์ ความสะอาด การพูดคุย หรือแม้แต่สิ่งอื่น ๆ รอบตัว

เพราะสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ถือเป็นตัวชี้วัดการใช้ชีวิตของเรา หากเราปฏิบัติไม่ดี ก็อาจส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของเราได้ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เรารู้จักรักษา และถนอมน้ำใจคนรอบข้าง อาจจะทำให้เราใช้ชีวิตได้ง่ายมากขึ้น แถมยังไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตใจของเราอีกด้วย 

การพักผ่อนให้เพียงพอ สิ่งสำคัญในการดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองให้ดีอยู่เสมอคือ การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย

เพราะหากร่างกายของเราพักผ่อนอย่างเพียงพอ ก็จะได้ซ่อมแซมส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เรามีร่างกายที่แข็งแรงมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นกิจวัตรประจำวันที่เราควรจะทำอยู่เสมอ เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้นนั่นเอง 

การดูแลสุขภาพเมื่ออากาศเปลี่ยนแปลง เนื่องจากสภาพอากาศมักที่จะเปลี่ยนแปลงอยู่บ่อย ๆ เราจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองให้ดีอยู่เสมอ เพื่อป้องกันอาการเป็นหวัด หรือโรคร้ายที่อาจมาพร้อมกับอากาศที่เปลี่ยนแปลง ฉะนั้น เพื่อให้คุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น และมีสุขภาพร่างกายที่ดีไปด้วย

เราก็ควรที่จะให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องไหนก็ตาม การสวมใส่เสื้อผ้าที่เหมาะสม การทานอาหารที่มีประโยชน์ รวมไปถึง การสวมใส่หน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่สาธารณะนั่นเอง เพียงแค่นี้เราก็สามารถมีร่างกายที่แข็งแรง และมีคุรภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น 

 

สนับสนุนโดย   เครื่องช่วยฟังแบบชาร์จ

แนะนำอาหารที่ควรทานทุกวันอิ่มนานแถมลดน้ำหนักได้

ในสมัยปัจจุบันนี้ การมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง การมีรูปร่างที่ดีจากภายในสู่ภายนอก เป็นหนึ่งในสิ่งที่หลาย ๆ คนนั้นต้องการกันเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิงสำหรับหนุ่ม ๆ สาว ๆ ที่ต้องการเพิ่มความมั่นใจให้กับตนเอง

เพราะการที่เรามีรูปร่างที่ดีมีหุ่นที่สวย นอกจากจะช่วยเพิ่มบุคลิกภาพให้กับเราแล้ว ยังทำให้เรานั้นสามารถชีวิตในประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ สวมใส่เสื้อผ้าได้สวยมากขึ้นได้

จึงทำให้การลดน้ำหนักในสมัยนี้ เป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นทั้งในเรื่องของการออกกำลังกาย การเลือกรับประทานอาหาร หรือแม้แต่วิธีอื่น ๆ อีกมากมายก็ได้รับความนิยมเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม สำหรับสาว ๆ คนไหนที่อยากหันมาเพิ่มความมั่นใจให้ตนเองด้วยการลดน้ำหนัก แต่ไม่มีเวลาไปออกกำลังกาย หรือหากใครที่ไม่ชอบการออกกำลังกาย

วันนี้เราก็จะมาแนะนำอาหารที่รับรองได้เลยว่าหากเราทานเป็นประจำ นอกจากจะช่วยทำให้เราอิ่มท้องได้นานแล้ว ยังมีส่วนช่วยในการลดน้ำหนัได้อีกด้วย จะมีอาหารประเภทไหนบ้างนั้น ไปดูกันเลย 

 

1.แตงโม

เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในผลไม้ที่สามารถหาทานได้ง่ายมาก ๆ แถมยังมีราคาที่ไม่แพง สามารถทานได้ตลอด ซึ่ง  hoiana เวียดนาม   รู้หรือไม่ว่าแตงโม เป็นหนึ่งในตัวช่วยที่สามารถลดน้ำหนักได้ดีมาก ๆ แถมยังทำให้น้ำหนักของเราลดลงได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย เพราะในแตงโมนั้นจะอุดมไปด้วยปริมาณน้ำค่อนข้างสูง

ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญ หากเราทานเป็นประจำจะช่วยเพิ่มอิ่มท้องให้เราได้ แถมยังสามารถช่วยลดอาการกระหายน้ำได้ดี หากใครที่อยากลดน้ำหนัก หรือกำลังอยู่ในช่วงของการควบคุมน้ำหนัก การทานแตงโมเป็นประจำช่วยได้อย่างแน่นอน 

2.วอลนัท

แน่นอนว่าอาหารประเภทนี้เป็นตัวช่วยในการลดน้ำหรักได้เป็นอย่างดี ทั้งยังช่วยควบคุมความหิวของเราได้เป็นอย่างดีอีกด้วย หากใครที่อยากลดน้ำหนัก อยากมีรูปร่างที่สวย การทานวอลนัทเป็นหนึ่งในตัวช่วยสำคัญที่เราไม่ควรมองข้าม แถมยังสามารถช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง ช่วยควบคุมพฤติกรรมการกินของเราให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสมได้อีกด้วย 

3.เห็ด

รู้หรือไม่ว่า เห็ดเป็นหนึ่งในอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของเราเยอะมาก ๆ แถมยังมีแคลอรีที่ต่ำ มีไขมันดี และยังมีวิตามินอีกด้วย หากสาว ๆ คนไหนที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก หรือยากที่จะสร้างรูปร่างที่ดีมห้แก่ตนเอง การนำเห็ดมาประกอบอาหาร และทานเป็นประจำ นอกจากจะทำให้เราอิ่มท้องได้นานแล้ว ยังเป็นอาหารที่เหมาะสมสำหรับคนที่อยู่ในช่วงของการลดน้ำหนักอีกด้วย