เลือกทำเล และสร้างรั้ว ช่วยลดเสียงรบกวน

เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจได้อย่างมาก การผลิตบ้านที่เสียงเข้ามาได้น้อย เพื่อลดสิ่งรบกวนจากข้างนอกนับว่าเป็นบ้านในฝันของคนอีกหลายคน หวานใจเราได้รับความสงบเงียบ โดยการผลิตบ้านเก็บเสียงนั้น ทำเป็นมากมายหลากหลายวิธี เมื่อก่อนจะเริ่มดีไซน์ก่อสร้างบ้านเก็บเสียง

เลือกทำเล และสร้างรั้ว เจ้าของบ้านควรจะทราบซะก่อนว่าเสียงดังรบกวนเจ้าปัญหานั้นมีต้นเหตุจากสาเหตุที่เกิดขึ้นนอกบ้านหรือในบ้าน เพื่อจะได้จัดการกับปัญหาแล้วก็จัดแจงได้ถูกจุด

แล้วอะไรเป็น สิ่งที่ทำให้เกิดเสียงดังรบกวนเจ้าปัญหา?

  1. เลือกสถานที่แล้วก็จุดที่อยากได้ก่อสร้างบ้าน
  2. สร้างแนวรั้วซึมซับเสียง

แล้วอะไรเป็น ต้นเหตุของเสียงดังรบกวนเจ้าปัญหา?

ต้นตอหรือต้นเหตุของเสียงดังรบกวนแบ่งได้เป็น 2 แหล่งหมายถึงเสียงดังรบกวนจากปัจจัยภายนอก อย่างเช่น เสียงรถยนต์วิ่ง เสียงแตร สถานที่หรือสิ่งก่อสร้างบริเวณรอบ ๆ อย่าง สถานศึกษา วัด ตลาด ฯลฯ เสียงดังรบกวนจากปัจจัยภายใน เป็นต้นว่า เสียงที่ส่งผ่านผนังได้ เสียงที่ลอดผ่านจากรูต่าง ๆ ช่องโหว่ตามคาน จุดที่เป็นรอยต่อต่าง ๆ

ซึ่งถ้าหากพวกเราทราบที่มาที่ไปของเสียงรวมทั้งจะสามารถไขปัญหาได้ถูกจุดเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดย  เครื่องช่วยฟังตัดเสียงรบกวน    วันนี้ ต้องการเสนอวิธีดี ๆ สำหรับในการก่อสร้างบ้านเก็บเสียง ที่พักได้เลยว่าจัดแจงเสียงดังรบกวนอีกทั้งในรวมทั้งนอกบ้านได้

  1. เลือกทำเลแล้วก็จุดที่ปรารถนาก่อสร้างบ้าน

ถ้าหากเป็นได้เสนอแนะให้เลือกก่อสร้างบ้านในจุดที่ ไกลห่างจาก ชุมชน ตลาด สถานที่เรียน วัด ถนนใหญ่ เพราะเหตุว่าเป็นแหล่งที่นำไปสู่เสียงดังรบกวนที่ไม่อาจควบคุมได้ ในกรณีที่หลีกเลี่ยงมิได้ ชี้แนะให้เลือกวางตำแหน่งของตัวบ้านให้เหลืออยู่พื้นที่ว่างรอบ ๆ บ้านเอาไว้ขั้นต่ำ 30 % ของขนาดพื้นที่ทั้งปวง ควรจะจัดตำแหน่งของตัวบ้าน

โดยตั้งให้ห่างจากแนวรั้วหรือต้นกำเนิดเสียง ช่วยทำให้ระดับเสียงก่อกวนจากข้างนอกจะน้อยลงสูงถึง 6 เดซิเบล ในทุก ๆ ระยะห่างที่มากขึ้นเป็นสองเท่าจากจุดที่เป็นบ่อเกิดเสียง

2.สร้างแนวรั้วซับเสียง

รั้วบ้านของเรานั้น เปรียบเสมือนแนวกันแล้ว เพื่อระบุขนาดของที่ดินรวมทั้งคุ้มครองให้ปลอดภัยจากข้างนอกแล้วนั้น ยังสามารถดีไซน์ให้มีคุณลักษณะสำหรับในการซึมซับเสียงข้างนอกได้อีกด้วย ด้วยการผลิตรั้วแบบกำแพงปูนฉาบ นอกเหนือจากการที่จะแข็งแรง ยังช่วยซึมซับเสียงด้านนอกได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งความสูงรวมทั้งระยะห่างของรั้วกับตัวบ้านก็ส่งผลต่อสมรรถนะ

สำหรับในการซับเสียงด้านนอกเช่นเดียวกัน โดยรั้วควรจะสูงจากบ่อเกิดของเสียง 3 เท่าก็เลยจะเป็นระดับที่พอดี อย่างเช่นถ้าเกิดต้นกำเนิดเสียงเป็น ถนนหนทางที่มีรถยนต์วิ่งตลอดระยะเวลา ควรจะก่อกำแพงสูงจากผิวถนนอย่างต่ำ 3 เมตร 

พฤติกรรมที่ทำให้เราเสี่ยงต่อการเป็นริดสีดวง

รู้หรือไม่ว่าคนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้มักที่จะมีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเป็นริดสีดวงกันเป็นอย่างมาก เพราะบางคนนั่งห้องน้ำนานเกินไปก็เพียงเพราะว่าเล่นโทรศัพท์มือถือ หรือแม้แต่อาจจะทำสิ่งอื่นๆภายในห้องน้ำนานจนเกินไป ซึ่งแน่นอนว่าการที่เรานั่งห้องน้ำนานถือเป็นหนึ่งในพฤติกรรมที่ทำให้เราเสี่ยงต่อการเป็นโรคริดสีดวงได้ง่าย

เสี่ยงต่อการเป็นริดสีดวง เนื่องจากโลกนี้ถือเป็นหนึ่งในโลกที่อาจเกิดขึ้นจากความผิดปกติของร่างกาย ซึ่งร่างกายของเรา จะตอบสนองด้วยการแสดงอาการบางอย่างออกมาเพียงเล็กๆน้อยๆเท่านั้น

ซึ่งหากเราปล่อยไว้ก็จะยิ่งทำให้เรานั้นมีอาการที่รุนแรงจนเสี่ยงต่อการเป็นโรคริดสีดวงนั่นเอง ฉะนั้น การดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองให้ดีโดยที่ไม่มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายถือเป็นหนึ่งในปัจจัยที่จะทำให้เรานั้นสามารถใช้ชีวิตในประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แต่ทว่า เนื่องจากการใช้ชีวิตของคนส่วนใหญ่แตกต่างกันออกไปทำให้บางคนนั้นอาจมีพฤติกรรมที่ทำให้ตนเองนั้นเสี่ยงต่อการเป็นโรคริดสีดวงโดยที่ตนเองก็อาจไม่รู้ตัว ซึ่งวันนี้เราก็จะพาทุกคนไปดูกันว่าจะมีพฤติกรรมไหนกันบ้างที่ทำให้เรานั้นเสี่ยงต่อการเป็นโรคริดสีดวง ไปดูกันเลย

  • นั่งหรือยืนนานจนเกินไป

ถึงแม้ว่าพฤติกรรมนี้จะเป็นพฤติกรรมที่คนส่วนใหญ่มักที่จะทำกันอยู่บ่อยๆและมักที่จะมองข้ามการเป็นโรคร้าย เพราะ พฤติกรรมการนั่งหรือการยืนนานๆนอกจากจะส่งผลให้กล้ามเนื้อของเราเกิดอาการเกร็งได้แล้วยังเสี่ยงต่อการเป็นโรคริดสีดวงได้อีกด้วย เพราะการที่เรานั่งหรือยืนนานๆนั้นจะทำให้เลือดคั่งค้าง อยู่บริเวณหลอดเลือดทวารหนัก จนทำให้เกิดการพองตัว และทำให้เราเสี่ยงต่อการเป็นโรคริดสีดวงได้นั่นเอง

  • พฤติกรรมการเบ่งอุจจาระ

เชื่อว่าคนส่วนใหญ่มักที่จะมีพฤติกรรมการเบ่ง อุจจาระแรงแรงเพื่อให้ อุจจาระภายในร่างกายนั้นออกมาได้อย่างสบายใจ แต่รู้หรือไม่ว่า การที่เรามีพฤติกรรมการเบ่งอุจจาระแรงๆนั้น จะยิ่งทำให้เราได้รับความเสี่ยงต่อการเป็นโรคริดสีดวง เพราะพฤติกรรมนี้จะยิ่งทำให้เลือดภายในร่างกายของเราข้างๆอยู่หลอดเลือดทวารหนัก จนทำให้หลอดเลือดเกิดการพองตัว และมีอาการเนื้อปลิ้นออกมาคล้ายๆอยู่ริดสีดวงนั่นเอง

  • พฤติกรรมการไม่รับประทานผัก

เนื่องจากคนส่วนใหญ่มักที่จะมีพฤติกรรมการไม่ชอบทานผักเพราะอาจจะมองว่าพรรคมีรสชาติขม แถมยังมีกลิ่นที่เหม็นเขียวอีกด้วย จึงทำให้หลายคนมองว่าผักนั้นถือเป็นหนึ่งในอาหารที่ไม่น่ารับประทานแต่รู้หรือไม่ว่าการที่เรามีพฤติกรรมการไม่รับประทานผักนั้นจะยิ่งทำให้ระบบขับถ่ายหรือระบบย่อยอาหารของเราทำงานไม่มีประสิทธิภาพแถมยังทำให้เราได้รับความเสี่ยงต่อการเป็นโรคริดสีดวงได้ง่ายอีกด้วย เพราะโรคนี้เป็นโรคที่เกิดขึ้นจากความผิดปกติของระบบขับถ่ายยิ่งถ้าเราไม่ทานผักเพื่อกระตุ้นระบบขับถ่าย จะยิ่งทำให้เราถ่ายยาก และเสี่ยงกับการเป็นโรคริดสีดวงนั่นเอง

 

ได้รับการสนับสนุนเนื้อหาโดย    เครื่องช่วยฟังตัดเสียงรบกวน

รู้หรือไม่ 3 อาหารเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านม

 หากพูดถึงเรื่องของโรคมะเร็งเต้านม เรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่มีความร้ายแรงและอันตรายเป็นอย่างมาก โดยปัจจัยของการเกิดโรคชนิดนี้นั้น สามารถเกิดขึ้นได้หลายปัจจัยมากๆ ซึ่งโลกนี้ เป็นโรคที่เกิดขึ้นได้บ่อยมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้หญิงอย่างเรา ซึ่งถือว่ามีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งสูงมากๆ

อาหารเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านม โดยเฉพาะโรคมะเร็งเต้านม โดยสมัยปัจจุบันนี้ ผู้หญิงส่วนใหญ่ มักมีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งเต้านมสูงมากๆ

แต่ปัจจัยหลักของการเป็นโรคนี้ อาจเกิดขึ้นจากความเสียหายของบีเอ็นเอ การดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ การได้รับฮอร์โมนเอสโตเจนมากเกินไป รวมไปถึงการใช้ชีวิตในประจำวันอีกด้วย อย่างไรก็ตาม โรคมะเร็งเต้านม เธอเป็นโรคที่มีความร้ายแรง จนทำให้ ผู้หญิงส่วนใหญ่มีความกังวลว่า ตนเองจะได้รับความเสี่ยง

ฉะนั้น วันนี้เราจะพาทุกคนไปดูกันว่า นอกจากอาหารจะมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่ร่างกายของเรา จะมีอาหารประเภทไหนบ้าง ที่อาจทำให้เราเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมได้ ไปดูกันเลย

  • น้ำตาล

หลายคนอาจจะไม่รู้ว่า การที่เรารับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยน้ำตาลสูงมากๆ ก็สามารถช่วยเพิ่มโอกาสในการเป็นโรคมะเร็งเต้านมได้เช่นกัน เพราะเนื่องจากว่า น้ำตาล จะเข้าไปเพิ่มการอักเสบ และเอนไซม์ ที่มีความเกี่ยวข้องกับการเกิดโรคมะเร็ง ดังนั้น ขอบอกเลยว่า หากเราชอบรับประทานอาหารที่หวานมากๆ หรือที่อุดมไปด้วยน้ำตาลสูงเป็นประจำ ขอบอกได้เลยว่า จะยิ่งเพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งเต้านมได้ง่ายนั่นเอง

  • เนื้อแปรรูป

ไม่ว่าจะเป็น แฮม ไส้กรอก เบคอน หรืออาหารที่มีไขมันสูง มีเกลือ และมีสารกันบูดสูง ซึ่งอาหารประเภทนี้ก็ล้วนแต่เป็นอาหารที่สามารถเพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งเต้านมได้ และแน่นอนว่า ในขณะเดียวกันก็เป็นอาหารที่คนส่วนใหญ่นั้นชื่นชอบกันเป็นอย่างมาก ดังนั้น การที่เราทานเนื้อแปรรูปที่อุดมไปด้วยไขมันเยอะ ก็จะยิ่งทำให้เรานั้นเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งเต้านมได้ ดังนั้น เพื่อลดโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็ง ควรเลือกทานแต่พอดี ไม่ควรทานเยอะมากเกินไป เพราะจะยิ่งทำให้ร่างกายของเราได้รับความเสี่ยงมากยิ่งขึ้น

  • เนื้อแดง

เป็นอีกหนึ่งในอาหารที่สามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งเต้านมได้ เพราะเนื้อแดง ไม่ว่าจะเป็น เนื้อหมู เนื้อวัว ซึ่งอาหารเหล่านี้ล้วนแต่เป็นตัวที่ช่วยกระตุ้นการเป็นโรคมะเร็งได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากเราปรุงเนื้อชนิดนี้ในอุณหภูมิที่สูงมากๆ ก็จะยิ่งเป็นตัวกระตุ้น สารพิษต่างๆที่อุดมอยู่ในเนื้อแดงนั้นไหลออกมาจนก่อให้เกิดโรคมะเร็งนั่นเอง ดังนั้น สำหรับใครที่ไม่อยากเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็ง ควรเลือกรับประทานเนื้อ แดงให้เหมาะสม เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อร่างกาย

 

สนับสนุนโดย.  เครื่องช่วยฟังตัดเสียงรบกวน