เชื่อว่าหลายคนคงรู้จักโรคภูมิแพ้กันบ้างแล้วว่าอาการของโรคภูมิแพ้นั้นเป็นอย่างไรซึ่งบางคนจะเห็นได้ว่าการเกิดโรคภูมิแพ้นั้นจะมีอาการคันที่บริเวณตา รวมถึงมีน้ำมูกไหล ไอหรือแม้แต่จามให้เกิดการ อย่างไรก็ตามหากโรคภูมิแพ้นี้เกิดขึ้นกับเด็กจะทำให้ระบบทางเดินหายใจของเด็กนั้นอุดตัน
เนื่องจากว่ามีน้ำมูกไปตามตรงบริเวณจมูกทำให้เด็กหายใจไม่ออกแล้วเปลี่ยนมาหายใจทางปากแทนซึ่งผลกระทบที่จะตามมาก็คือจะทำให้โครงสร้างของใบหน้าของเด็กนั้นเปลี่ยนไป
ซึ่งจะทำให้ใบหน้าของเด็กนั้นมีความยาวมากขึ้นอีกทั้งเวลาที่ยิ้มก็จะเห็นเหงือกมากจนเกินไปอีกทั้งเวลาที่ยิ้มก็จะทำให้เห็นเหงือกมากจนเกินไปและเด็กบางคนจะเห็นได้ว่าจะมีรอยอยู่ที่บริเวณจมูกเนื่องจากว่าเด็กจะใช้มือเก่าที่บริเวณจมูกเพราะมีอาการคันอีกครั้งโรคภูมิแพ้ที่เราจะเห็นได้ง่ายมากที่สุดก็คือบริเวณใต้ตาจะดำคล้ำนั่นเองรักกันให้มา
สำหรับอาการที่กล่าวมาข้างต้นนี้ก็คือ อาการของคนที่กำลังเป็นโรคภูมิแพ้ โดยโรคภูมิแพ้นั้นจะมีอาการรุนแรงมากกับรุนแรงน้อย หากใครไม่ได้เป็นมากมีอาการรุนแรงของโรคเพียงแค่นิดหน่อย ก็จะมีอาการคัน คัดจมุกและน้ำมูกไหล แต่หากมีอาการที่รุนแรงมาก จะทำให้เด็กบางคนจะไม่สามารถนอนหลับได้เลย เพราะรูจมูกจะตันมาก
สำหรับการรักษาด้วยตนเองเบื้องต้น ควรต้องเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเอง ว่าเราเกิดภูมิแพ้เพราะอะไร เช่น บางคนแพ้ฝุ่น แพ้กลิ่นธุป เราต้องไปแก้ไขให้ตรงกับที่เราแพ้ และแน่นอนว่าคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ จะเป็นต้องทำความสะอาดห้องนอน เตียงนอน ผ้าปูที่นอนให้บ่อยๆ ไม่ให้มีฝุ่นละออง และควรจะต้องทำความสะอาดแอร์บ่อยๆ ล้างบ่อยๆ ควรจะจ้างช่างมาล้างแอร์โดยตรง และอย่าลืมว่าการใช้ผ้าปูที่นอนหรือปลอกหมอนสำหรับป้องกันไรฝุนโดยเฉพาะ และหลีกเลี่ยงการเลี้ยงสัตว์
แต่ถ้าอาการภูมิแพ้ยังไม่ได้ดีขึ้น ควรจะต้องซื้อยามาทาน ซึ่งยาที่เรากินได้นั้นคือ ซื้อยาแก้แพ้มากิน โดยให้สอบถามกับทางเภสัชกร ให้แนะนำที่จะมีอยู่ตามร้ายขายยา และแน่นอนว่าต้องใช้ยาพ่นจมูกร่วมด้วย แต่ถ้าหากว่ารักษาตามอาการข้างต้น และดูแลเรื่องของความสะอาดแล้วอาการยังไม่ดีขึ้นภายใน 4 เดือนก็ควรจะไปรักษาที่โรงพยาบาล ไม่ควรปล่อยให้มีอาการเรื้อรังเพราะ อาจจะทำให้เกิดเป็นโรคอื่นอื่นตามมาได้ เช่น การเป็นโรคไซนัสอักเสบ หรือแม้แต่เป็นโรคริดสีดวงจมุกนั่นเอง
สนับสนุนโดย หวยออนไลน์